บอร์ด Esp8266 คือ
ในระหว่างการขับขี่รถยนต์. เมื่อรอบเครื่องของคุณถึง 2, 500 – 3, 000 รอบต่อนาที คุณควรเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 จำไว้ว่ามันมันจะขึ้นอยู่กับประเภทรถที่คุณขับขี่ว่าเครื่องวัดความเร็วรอบถูกตั้งให้เปลี่ยนเกียร์ที่ความเร็วรอบเท่าไหร่ เมื่อเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้น เครื่องยนต์ของรถจะเริ่มเร็วขึ้น และคุณควรจดจำเสียงนี้ให้ได้ ให้เหยียบแป้นคลัทช์ และโยกหัวเกียร์จากเกียร์ 1 มาเกียร์ 2, 3, 4, 5 ตามลำดับ 8. หากคุณปล่อยคลัทช์เร็วเกินไป รถจะกระตุก และดับ หากเครื่องยนต์มีเสียงคล้ายจะดับ ให้เหยียบคลัทช์ค้างไว้ หรือกดคลัทช์ให้ลึกขึ้นอีกเล็กน้อย ความเร็วเครื่องยนต์ที่มากเกินไป ในขณะที่ไม่ได้เหยียบคลัทช์จนสุด จะทำให้ชิ้นส่วนของคลัทช์สึกหรอก่อนเวลาอันควร ส่งผลให้เกิดการลื่นไถล หรือทำให้ชิ้นส่วนคลัทช์ที่ระบบส่งกำลังไหม้ อยากเดินทางปลอดภัย ถ้าเตรียมตัวไว้ช่วยได้เยอะ
ทุกครั้งที่เอามาจับคันเกียร์จำไว้เสมอว่า ขาขวาจะต้องเหยียบเบรคไว้เสมอ เพื่อความปลอดภัย ซึ่งคันเกียร์ต่างๆจะโยกตำแหน่งได้ เมื่อบิดกุญแจสตาร์ทรถแล้วเท่านั้น 4. เมื่อสตาร์ทรถ ควรสตาร์ทไม่เกิน 5 นาที และอย่าเปิดแอร์ทิ้งไว้ เมื่อเครื่องยนต์ติดค่อยเปิดแอร์ทีหลัง วิธีนี้จะช่วยรักษาแบตเตอรี่ให้มีอายุใช้งานที่ยาวนาน 5. เมื่อสตาร์ทติดแล้วให้เช็คหน้าจอในจุดเตือนต่างๆของเครื่องยนต์ว่า จะต้องไม่มีหลอดไฟสีแดงขึ้น สีแดงจะต้องดับหมด ยกเว้นดวงเดียวที่จะแดงคือ เบรกมือ 6. อย่าพยายามคาเบรกมือไว้ บางคนออกรถทั้งๆที่ยังไม่ได้เอาเบรกมือลง มันจะจะทำให้กินน้ำมัน ดังนั้นก่อนออกรถควรตรวจเช็คให้ดี ที่สำคัญอย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนขับเคลื่อนตัวรถ และนี่เป็นขั้นตอนที่ถูกต้องในการสตาร์ทรถยนต์เกียร์ออโต้ ลองนำไปทบทวนดูว่า คุณได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องอย่างที่แนะนำมาหรือเปล่า? มีบางอย่างที่หลงลืมไปไหม เช่น การไม่เอาเบรกมือลง การเปิดแอร์ทิ้งไว้ก่อนสตาร์ท ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยและการยืดอายุการใช้งานของรถคุณได้อยู่กับคุณได้อย่างคุ้มค่าและนานที่สุดนั่นเอง ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ เวปไซด์ และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook
มือใหม่หัดขับรถยนต์ ควรปฏิบัติอย่างไร กับการออกถนนครั้งแรก
bestofnaturalawards.com, 2024 | Sitemap